วันเสาร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553
วันพุธที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2553
ปรัชญาปฏิบัตินิยม
ปรัชญาปฏิบัตินิยม
ปรัชญาปฏิบัตินิยม (Pragmatism) เป็นความคิดที่แร่หลายทั่วไปในวงการปรัชญาตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษ ที่ 19 เป็นต้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา แม้จะถือว่าปรัชญาปฏิบัตินิยมเป็นปรัชญาสมัยปัจจุบัน แนวความคิดของนักปรัชญา มีอยู่ 3 คนด้วยกันคือ
1. ชาร์ล แซนเดอรส์ เพิร์ซ ได้กล่าวถึงเรื่อง ทฤษฎีความจริงที่ว่าทฤษฎีใดก็ตามจะถือว่าเป็นความจริงได้ ก็ต่อเมื่อมันทำงานได้ผลในทางปฏิบัติหรือให้ผลที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และทฤษฎีความสงสัยและความเชื่อ ความสงสัยแตกต่างกับความเชื่อตรงที่ความสงสัยทำให้เกิดการตั้งคำถาม ส่วนการตัดสินลงมติเป็นการขจัดความสงสัยและก่อให้เกิดความเชื่อตามมา นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างกันในทางปฏิบัติอีกด้วย กล่าวคือความเชื่อเป็นตัวนำทางความปรารถนา และสร้างรูปแบบของการกระทำเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
2. วิลเลียม เจมส์ กล่าวว่าทฤษฎีความจริงตามทรรศนะของเจมส์ไม่มีลักษณะ เป็นสิ่งไม่แน่นอน ตายตัว แต่มีลักษณะเป็นกระบวนการแก้ปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จ เจมส์กล่าวว่ามนุษย์แต่ละคนมีความคิด ความเชื่อต่าง ๆ อยู่มากมาย เมื่อเขามีประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้น ในบางครั้งอาจทำให้เกิความสับสนวุ่นวายใจ เกิดความขัดแย้งกับความคิด ความเชื่อของตนทั้งนี้เพราะประสบการณ์ใหม่ไม่สามารถเข้ากับประสบการณ์เก่าได้ แต่ในทฤษฎีความจริงของเจมส์นั้นได้ถือหลักการแก้ปัญหาแบบให้มีการกระทบกระเทือนหรือเปลี่ยนแปลงประสบการณ์เก่าให้น้อยที่สุด และเกิดความต่อเนื่องกันระหว่างประสบการณ์เก่ากับประสบการณ์ใหม่ให้มากที่สุด แต่เจมส์ก็ยอมรับว่าแก้ปัญหาแบบนี้คงไม่ประสบผลสำเร็จเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์นักอาจเป็นไปได้พอประมาณเท่านั้น แต่ทฤษฎีนี้ก็น่าจะใช้ได้ดีกว่าบางทฤษฎี
เมื่อกล่าวโดยสรุป ตามความคิดเห็นของเจมส์ ความจริงเป็นเรื่องของกระบวนการ (process) ดังต่อไปนี้
1. กระบวนการพิสูจน์ว่าเป็นจริงและเป็นสิ่งที่ใช้ได้ หมายความว่า ความคิดใดจะจริง ต้องสามารถอธิบาย ทดลอง พิสูจน์ให้เห็นจริงได้และก่อให้เกิดผลหรือประโยชน์ในประสบการณ์ของเรา
2. กระบวนการนำทาง ความคิดที่ผ่านกระบวนการพิสูจน์ให้เห็นจริงและมีเหตุผลใช้ได้ จะต้องนำไปสู่ความคิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นสาวนหนึ่งของประสบการณ์ ต้องเชื่อมโยงกับการมีประสบการณ์อื่นที่มีค่าสำหรับการดำเนินชีวิต
จากที่กล่าวมาทำให้เห็นว่าความจริงในทรรศนะของปฏิบัตินิยมกับเหตุผลนิยม แตกต่างกันในประเด็นสำคัญ ดังนี้
1. ในปรัชญาปฏิบัตินิยม ความจริงไม่แยกตัวเองออกจากโลกแห่งข้องเท็จจริง ความจริงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในกระบวนการหรือในปรากฏการณ์ที่เรามีประสบการณ์อยู่ ส่วนพวกเหตุผลนิยมถือว่าความจริงได้มาจากการใช้เหตุผลคิดเข้าถึง ความจริงแยกตัวออกจากโลกข้อเท็จจริง
2. ปรัชญาปฏิบัตินิยมกล่าวถึงความจริงในลักษณะหลายหลากประโยชน์ และความพึงพอใจ รวมทั้งการทำงานของมะนเพื่อให้บรรลุจุดหมายที่สามารถสนองความต้องการของคนเราได้ แต่เหตุผลนิยมถือว่าความจริงต้องเป็นหนึ่งเดียว จริงทุกเมื่อไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เป็นสิ่งสูงสุด คงทนถาวร เช่นความจริงตามทรรศนะของเพลโต เป็นต้น
3. จอห์น ดิวอี้ มีทรรศนะเรื่องปรัชญาแตกต่างจากนักปรัชญาคนอื่น ๆ ในแง่ที่ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่า ปรัชญา คือ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรของสิ่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง และความจริงที่เป็นนิรันดร ปรัชญาในลักษณะนี้คือปรัชญาจิตนิยมนั่นเอง ถ้าเราพิจารณาดูจะเห็นว่าการโต้แย้งวิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจิตนิยมนี้เป้นบ่อเกิดที่สำคัญของการพัฒนา ปรัชญาปฏิบัตินิยม (Capornigri 1971: 54) ดิวอี้เห็นว่าโลกที่เราอาศัยอยู่นี้เป็นโลกที่มีความไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหว มีสถานการณ์ที่เป็นปัญหาที่มนุษย์ต้องเผชิญและต้องพยายามแก้ปัญหานั้น มนุษย์ได้รู้ตระหนักว่าในโลกแห่งผัสสะนี้ไม่อาจมีความมั่นคงปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็เป็นโลกที่เราต้องดำรงชีวิตอยู่ และนอกจากนี้ดิวอี้ได้อธิบายถึงความแตกต่างของมนุษย์กับสัตว์ว่า มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงที่ว่าสามารถเก็บรวบรวม รักษาประสบการณ์ของตนไว้ได้ในความทรงจำ ส่วนสัตว์ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สัตว์เผชิญจบลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่สัตว์ไม่สามารถคิดต่อไปได้ว่าจะทำอย่างไรให้ดีกว่าวันที่ผ่านมา ส่วนมนุษย์แม้จะเป็นสัตว์โลกชนิดหนึ่ง แต่มิได้เกิดมาในโลกของวัตถุกายภาพอย่างเดี่ยว โลกสำหรับมนุษย์ยังเป็นโลกของเครื่องหมายและสัญลักษณ์อีกด้วย และนี่คือความแตกต่างของความเป็นมนุษย์กับสัตว์ ส่วนหน้าที่ของปรัชญาตามความคิดของดิวอี้กว้างมาก และไม่มีขอบเขตจำกัด ปรัชญาทำหน้าที่ในการวิพากษ์วิจารณ์เพื่อนำไปสู่การสร้างสรรค์สังคม ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าโดยเนื้อหาแล้ว ปรัชญาคือการปฏิบัติ นักปรัชญาไม่มีความจำเป็นต้องแข่งขันกับนักวิทยาศาสตร์ในการแสวงหาความจริงสูงสุดของจักวาล แต่นักปรัชญาควรจำกัดตัวเองอยู่กับเรื่องจริยธรรม สังคม และการศึกษา ทรรศนะแบบนี้คือทรรศนะที่เรียกว่า อุปกรณ์นิยม ซึ่งถือว่าปรัชญาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปรับปรุงสังคม ถ้าพิจารณาปรัชญาในแนวนี้จะเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะไม่ค่อยให้ความสำคัญแก่ทฤษฎีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ และชีวิตในปัจจุบันมากนัก
สำหรับความคิดของนักปรัชญาปฏิบัตินิยมทั้งสามคนที่ได้เสนอมาแล้วคงจะพอทำให้มองเห็นพัฒนาการ และลักษณะร่วมของปรัชญาลัทธินี้ได้บ้างพอสมควร แม้ว่าปรัชญาปฏิบัตินิยมจะรับความคิดมาจากหลายแนวความคิด แต่ก็ได้พัฒนาขึ้นมาเป็นปรัชญาที่มีหลักการของตนเองไม่มีปรัชญาสำนักใดจะสมบูรณ์พร้อมโดยไม่มีข้อบกพร่องเลย ปรัชญาปฏิบัตินิยมก็เช่นเดียวกันที่มีทั้งจุดดีจุดเด่นและจุดอ่อนที่ทำให้นักปรัชญากลุ่มจิตนิยมและเหตุผลนิยมโจมตีอยู่หลายประเด็น รวมทั้งความกำกวมของหลักการและวิธีการแบบปฏิบัตินิยมเองก็มีส่วนทำให้กลายเป็นข้อบกพร่องที่ทำให้มีการตีความไปหลายความหมาย จนบางครั้งกับนำไปสู่ข้อสรุปที่ไกลจากต้นเค้าความคิดเดิม โดยในส่วนนี้จะสรุปจุดเด่นจุดอ่อนของปรัชญาปฏิบัตินิยม คือ
จุดเด่นของปรัชญาปฏิบัตินิยม
1. ปรัชญาปฏิบัตินิยมเสนอคำแนะนำที่ฉลาดสำหรับการดำรงชีวิตประจำวัน สามารถช่วยรักษาสุขภาพจิตของคนเราได้เป็นอย่างดี
2. ในแง่การหาความรู้ ลัทธิเหตุผลนิยมใช้วิธีนิรนัยเป็นหลักส่วนลัทธิประสบการณ์นิยมใช้วิธีอุปนัยเป็นหลัก ปรัชญาปฏิบัตินิยมเห็นการใช้วิธีการนิรนัยหรืออุปนัยล้วน ๆ ไม่เพียงพอสำหรับการหาความรู้ในปัจจุบัน การใช้นิรนัยอย่างเดียวมีแต่ “กรอบ” หรือ “รูปแบบ” หรือ “โครงสร้าง” ของความคิด ส่วนอุปนัยนั้นคำนึงถึง “ข้อเท็จจริง” หรือ “เนื้อหา” มากกินไป ทั้งสองลัทธิต่างก็ไปคนละทาง
จุดอ่อนของปรัชญาปฏิบัตินิยม
1. ปรัชญาปฏิบัตินิยมเน้นความเป็นปัจเจกบุคคลมากเกินไปจนทำให้กลายเป็นการเห็นแก่ตัว มองเข้าหาตนเองเป็นหลัก ทำให้ขาดการมองประโยชน์ของสังคม
2. ความคิดเรื่องความดีที่ไม่มีลีกษณะสมบูรณ์สูงสุดในปรัชญาปฏิบัตินิยมก่อให้เกิดปัญหาในการตัดสินการกระทำในแต่ละสถานการณ์ นั่นคือหาเกณฑ์ที่แน่นอนไม่ได้ เพราะว่า ดี ชั่ว ถูก ผิด ก็อาจผสมปนเปกันไปหมด
ความส่งท้าย
ปรัชญาปฏิบัตินิยมเสนอความคิดที่แตกต่างกับปรัชญาลัทธิอื่นตรงที่เน้นผลทางปฏิบัติมากกว่าหลักการหรือทฤษฎีแต่การกล่าวเช่นนี้มิได้หมายความว่าหลักการไม่สำคัญ คนเราจะแก้ปัญหาใดก้ตามจำเป็นต้องรู้หลักการที่สำคัญเกี่ยวกับสิ่งนั้นก่อน ขณะเดียวกันก็สามารถนำหลักการหรือทฤษฎีนั้นมาใช้แก้ปัญหาด้วยเช่นกัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)